‘วิโรจน์’ เยือน ‘บางขุนเทียน’ ชี้หากได้เป็นผู้ว่า ต้องเร่งรัดโครงการขนาดใหญ่ เน้นผลักดันปลูกป่าชายเลน เพื่อลดการกัดเซาะชายฝั่ง

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล พร้อม วิเชียร กันทาทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางขุนเทียน เบอร์ 1 เดินตลาดเช้าพบปะพี่น้องประชาชน และเดินทางเข้าชมโครงการสะพานรักษ์บางขุนเทียน ซึ่งเป็นสะพานที่เชื่อมต่อกับเส้นทางจักรยานและป่าชายเลนก่อนจะถึงแนวคันหินที่ป้องกันการกัดเซาะของน้ำทะเล โดยปัญหานี้เป็นปัญหาเรื้อรังยาวนานหลายสิบปี ประชาชนในพื้นที่ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า มีการขออนุมัติสร้างคันหินไปกับกทม. มาตั้งแต่ยุคพลตรีจำลอง ศรีเมือง เป็นผู้ว่าฯ กทม. ปัจจุบันเพิ่งจะมีการอนุมัติงบประมาณสร้าง “โครงการป้องกันและแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร” เป็นเงิน 1,410 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้างทั้งหมด 30 เดือน

ด้านวิโรจน์ให้ความเห็นกับผู้สื่อข่าวว่า กังวลกับระยะเวลาของโครงการ เกรงว่า จะกลายเป็นโครงการเมกะโปรเจกต์เจ็ดชั่วโคตร หากตนได้รับเลือกให้บริหารงานกทม. จะเร่งดำเนินการเร่งรัด ปรับลดระยะเวลาการทำงานให้สั้นลง ขณะเดียวกันก็จะเน้นผลักดันการปลูกป่าชายเลน ไปพร้อมๆ กับการทำโครงสร้างอ่อนอย่างไม้ไผ่ที่ใช้เป็นแนวกันคลื่น เพื่อลดความแรงของคลื่นในการกัดเซาะชายฝั่ง เสริมกับคันหินที่กำลังก่อสร้างด้วย วิโรจน์ย้ำกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมาประชาชนได้บริจาคที่ดินให้ กทม. เพื่อทำแนวคันหิน แต่สุดท้าย กทม.กลับยังไม่ดำเนินการทำอะไร อีกทั้งยังขอให้มีการบริจาคเพิ่มอีกเรื่อยๆ วิโรจน์เชื่อว่ากทม. ต้องเร่งดำเนินการไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

นอกจากนี้ ยังพบปัญหาที่ประชาชนร้องเรียน เช่น การก่อสร้างสะพานและโครงการเลียบป่าชายเลน แม้จะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ แต่สิ่งก่อสร้างกลับไม่ได้คำนึงถึงการใช้สอย ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ เช่น สะพานและทางเลียบป่าชายเลนที่มีขนาดกว้างราวๆ 2 เมตร ผู้สูงอายุก็ไม่สามารถเดินบนทางเท้าได้

ขณะที่วิเชียร ผู้สมัคร ส.ก. เบอร์ 1 บางขุนเทียน กล่าวว่า ที่นี่ประสบปัญหาหนักเรื่องการสร้างสิ่งก่อสร้างที่ประชาชนไม่ได้ต้องการ บวกกับการออกแบบที่ไม่คำนึงถึงการใช้ประโยชน์ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นคลองที่เชื่อมกับทะเล เส้นทางและสะพานที่ใช้เชื่อมบ้านเรือนไม่สามารถนำรถพยาบาลเข้าไปได้ ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกเวลาเจ็บป่วยฉุกเฉิน ซึ่งสะท้อนการใช้งบแบบราชการ ไม่เข้าใจความต้องการประชาชน หากวิโรจน์ได้เป็นผู้ว่าฯ ตนเชื่อว่าการใข้งบแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะทีมวิโรจน์มีนโยบาย “งบที่ประชาชนออกแบบได้” ซึ่งเป็นการกันงบประมาณจำนวนหนึ่งของกรุงเทพ ให้ประชาชนเลือกได้ว่าจะใช้งบทำประโยชน์อะไรในชุมชน
