“ฟลุ๊ค เดอะสตาร์” อัด “อภิสิทธิ์” เป็น “มาร์ค เดอะสะตอ” พูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น

“ฟลุ๊ค เดอะสตาร์” อัด “อภิสิทธิ์” เป็น “มาร์ค เดอะสะตอ” พูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น ชี้ บอยคอทเลือกตั้ง ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร แต่บริหารล้มเหลวแพ้เลือกตั้งซ้ำซาก มีคนตายอีก 99 ศพ แนะ ควรหุบปาก คนจะได้ไม่นึกถึงความเลวร้ายในอดีต

นายพชร ธรรมมล หรือ ฟลุ๊ค เดอะสตาร์ ว่าที่ผู้สมัคร กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ออกมาวิจารณ์พรรคเพื่อไทยว่าก้าวไม่พ้นตระกูลชินวัตร และ ห่วงว่าจะเกิดการปฏิวัติอีกนั้น อยากให้นายอภิสิทธิ์ได้พิจารณาตัวเองอย่าได้ทำตัวเป็น “มาร์ค เดอะสะตอ” พูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น แม้ว่าจุดประสงค์ของนายอภิสิทธิ์อาจจะต้องการกลับไปนำพรรคประชาธิปัตย์ที่กำลังตกตำ่สุดขีดจากข่าวอื้อฉาวของอดีตรองหัวหน้าพรรคและอดีตหัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่ปรากฏในสื่อตลอดเดือนที่ผ่านมา ที่สั่นสะเทือนโยงไปถึงหัวหน้าพรรคที่ได้ชักชวนนำเข้ามาในพรรคที่ควรจะต้องร่วมกันรับผิดชอบ

ดังนั้นจึงอยากเตือนสติให้นายอภิสิทธิ์ได้ระลึกถึงปัญหาที่นายอภิสิทธิ์ได้ก่อกรรมทำเข็ญสร้างความฉิบหายให้กับประเทศนี้อย่างใหญ่หลวง จากการบอยคอทการเลือกตั้ง 2 ครั้ง และทั้งสองครั้งนำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหารทั้ง 2 ครั้ง เหมือนตั้งใจเตี๊ยมกันเพื่อนำไปสู่การปฏิวัติ และเป็นสาเหตุที่ทำให้ประเทศไทยต้องเสื่อมถอยตลอด 10 กว่าปีนี้ อีกทั้งการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารที่นายอภิสิทธิ์ไม่ได้ชนะการเลือกตั้ง และไม่เคยชนะการเลือกตั้ง แต่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเพราะใช้กลวิธีร่วมกันในการยุบพรรคพลังประชาชน ดึงคนออกจากพรรคพลังประชาชน แล้วบีบให้ไปจัดตั้งรัฐบาลกันในค่ายทหาร แต่ต่อมาก็บริหารประเทศล้มเหลว มีข้อหาการทุจริตคอรัปชั่นกันอย่างมาก โดยเฉพาะโครงการไทยเข้มแข็ง 4 แสนล้านบาท ที่คนจำกันไม่ได้เลยว่านำไปใช้อะไรบ้าง มีแต่เรื่องทุจริตเช่น ทุจริตโรงพัก 396 แห่งที่ศาลได้ตัดสินว่าผิดแล้ว อีกทั้งยังมีคนเสื้อแดงตายและเจ็บจำนวนมากในช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และเมื่อมีการเลือกตั้งอีกครั้งก็แพ้พรรคเพื่อไทยอย่างหลุดลุ่ย และไม่มีทางชนะการเลือกตั้งได้ เลยต้องออกมาเดินขบวนเป่านกหวีดซึ่งนายอภิสิทธิ์ก็ได้ร่วมเดินขบวนเป่านกหวีดด้วย อีกทั้งไม่ยอมส่งคนลงเลือกตั้งเพราะรู้ว่าลงเลือกตั้งก็แพ้ จนเป็นสาเหตุของการปฏิวัติอีกครั้งหนึ่ง และ 5 ปีต่อมาพอมีเลือกตั้งก็ถูกประชาชนลงโทษ จึงแพ้การเลือกตั้งแบบหมดรูปจนต้องลาออกจากหัวหน้าพรรคและ ตำแหน่ง สส. และที่พ่ายแพ้ก็เพราะแพ้ตระกูลชินวัตร เลยผูกใจเจ็บมาตลอดใช่หรือไม่ อีกทั้งพรรคประชาธิปัตย์เองก็ยังก้าวไม่พ้นนายชวน มีดโกนหมดอายุ เลยใช่หรือไม่ ทั้งที่แพ้ซ้ำซาก

ในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่าใครจะได้บริหารประเทศ ซึ่งถ้าหากประชาชนจะเลือกคนตระกูลชินวัตร เพราะบริหารประเทศแล้วประเทศมั่งคั่ง ประชาชนมีความสุข มีเงินใช้คล่องมือ มีความเป็นอยู่ที่ดี มีรายได้สูงพอที่เลี้ยงดูครอบครัวได้ ไม่ลำบากเหมือนสมัยพรรคประชาธิปัตย์บริหาร หรือในสมัยเผด็จการและต่อด้วยเผด็จการสืบทอดอำนาจที่บริหารล้มเหลว ก็เป็นสิทธิของประชาชนที่จะตัดสิน การขู่เรื่องจะเกิดการปฏิวัติจึงไม่ใช่นิสัยและจริยธรรมของคนในระบอบประชาธิปไตย และน่าจะเป็นความกลัวที่จะแพ้การเลือกตั้งจนอุจจาระขึ้นสมองใช่หรือไม่

ดังนั้น ทางที่ดีนายอภิสิทธิ์ หรือ มาร์ค เดอะสะตอ ควรจะต้องหุบปาก เพราะเมื่อเผลอพูดออกมา ก็จะถูกรื้อฟื้นให้ประชาชนจำได้ว่าสาเหตุของการปฏิวัตินั้นส่วนหนึ่งมาจากการบอยคอทการเลือกตั้งถึง 2 ครั้งของนายอภิสิทธิ์ อีกทั้ง 12 ปีที่ผ่านมาคนเสื้อแดงยังไม่ลืมและทวงถามความยุติธรรมของผู้เสียชีวิต 99 ศพ และ คนเจ็บอีกหลายพันคนในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และการพ่ายแพ้อย่างราบคาบของนายอภิสิทธิ์ต่อตระกูลชินวัตรมาโดยตลอด จนหลอนและกลัวจึงต้องออกมาพูดมั่ว ซึ่งตรงข้ามกับการศึกษาระบอบประชาธิปไตยที่นายอภิสิทธิ์ได้ไปร่ำเรียนมาจากต่างประเทศ อยากขอเตือนสติว่าความกลัวทำให้เสื่อม ซึ่งที่ผ่านมาก็เสื่อมมาตลอด แต่ยังไม่สำนึกกันอีกหรือ