
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธัชพงศ์ แกดำ หรือ บอย นักกิจกรรมทางการเมือง โพสต์เฟซบุ๊ก ขณะที่เจ้าหน้าที่ศาลกำไลถอดกำไล EM ระบุข้อความว่า “เป็นอิสรภาพ จาก อี M เราเลิกกันแล้ว ลาแล้วลาเลยไม่ต้องกลับมาอีกนะ!”

สำหรับคดีดังกล่าว เกิดขึ้นจาก เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2564 กรณี 9 นักกิจกรรม จากกรณีชุมนุมเรียกร้องให้ปล่อยตัวกลุ่มทะลุฟ้าที่หน้า บก.ตชด.ภาค 1 หลังสมาชิกกลุ่มประชาชนรวม 32 รายถูกจับกุมจากการรวมตัวกันทำกิจกรรม “ปล่อยเพื่อนเรามา คืนประชาธิปไตย” ที่หน้าสโมสรตำรวจ เพื่อเรียกร้องให้ตำรวจปล่อยตัวคนขับรถปราศรัยในคาร์ม็อบของกลุ่ม “ราษฎร”

โดยก่อนหน้านี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งให้ประกันนักกิจกรรมทั้งห้า มีรายละเอียดดังนี้ “พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า แม้ผู้ต้องหาจะถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันหลายคดี แต่เวลาได้ล่วงเลยมานับเดือนเศษ นับตั้งแต่ผู้ต้องหาถูกจับกุม การสอบสวนน่าจะคืบหน้าใกล้แล้วเสร็จ ประกอบกับไม่มีข้อบ่งชี้ว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือจะหลบหนี และหลักประกันน่าเชื่อถือ จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาระหว่างสอบสวน ตีราคาประกัน 100,000 บาท กับให้ติดอุปกรณ์ตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (EM) โดยถือเอาคำรับรองของผู้ต้องหาในอุทธรณ์ข้อ 2.5 เป็นเงื่อนไขในการปล่อยตัว ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันแล้วดำเนินการต่อไป”
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าเมื่อวันที่ 10 ก.พ.66 ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้มีคำสั่งถอดกำไล EM กับ พรหมศร วีระธรรมจารี หรือ ฟ้า ผู้ต้องหาในคดีเดียวกับ ธัชพงศ์ แกดำ ด้วยเช่นกัน โดยฟ้า เปิดเผยความรู้สึกผ่านเฟซบุ๊กว่า วันนี้ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 มีคำสั่งให้ถอดกำไล em แล้วจ๊าาาา อิสระภาพที่แท้ true 🤩🤩🤩 วันนี้ฟ้าดีใจมากๆ น้ำตาไหลเลย แต่เป็นน้ำตาของความปีติหลังจากได้เสียน้ำตาแห่งความเศร้าไปถึง 3 ครั้ง

“ตลอดเวลาที่ผ่านมาฟ้าไม่มีงานทำเลยหลังจากถอดแล้วจ้างฟ้าได้ค่ะ มีงานอะไรติดต่อ ฟ้าได้เลย ฟ้าพร้อมทำงานให้ทุกๆทางเลยค่ะ ขอบคุณทุกๆกำลังใจจากทุกๆคนนะคะ แรงใจของพวกท่านทุกคนสำคัญกับฟ้ามากๆจริง” ฟ้า พรหมศร กล่าว